ไม่รอด!! ฉก.จงอางศึก รวบ 2 หนุ่มป่าเด็งขนกระท่อมผง 8 กระสอบ
ไม่รอด!! ฉก.จงอางศึก รวบ 2 หนุ่มป่าเด็งขนกระท่อมผง 8 กระสอบ
#ประจวบโพสต์นิวส์ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกับ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 และเจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับกุมผู้ต้องหา 2 รายเป็นชาวบ้านป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พร้อมรถยนต์กระบะ 1 คันและกระท่อมผง 8 กระสอบน้ำหนักประมาณ 270 กิโลกรัมได้ที่ บ้านด่านสิงขร อำเภอประจวบคีรีขันธ์ คาดว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
วันที่ 23 ตุลาคม 2562 พลตรี ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ได้สั่งการให้ พันเอก ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์, ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อส.ประจวบคีรีขันธ์ ,กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 สถานีตำรวจภูธรคลองวาฬ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบฯ ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดน จึงได้ร่วมกันวางแผนสกัดตามจุดแนวชายแดนด่านสิงขร ตามช่องทางธรรมชาติ และจุดล่อแหลมมาถึง 3 วันแล้ว
กระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเทา-ดำ ทะเบียน บธ 9740 ประจวบคีรีขันธ์ วิ่งเข้ามาในพื้นที่หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ได้รับแจ้งเบาะแสขับผ่านมาจึงให้สัญญาณหยุดรถและขอตรวจค้น พบด้านท้ายกระบะด้านบนเป็นหน่อสับปะรดปิดมาแต่เมื่อรื้อออกด้านล่างเป็นกระท่อมผงจำนวน 8 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 270 กก. เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม นาย สุภเดช เวนะ อายุ 30 ปี และนาย วันชัย เพชวรชัย อายุ 16 ปี เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งทั้ง 2 คนรับสารภาพว่ามีผู้ว่าจ้างให้ขับรถยนต์มามารับกระท่อมผงบริเวณจุดดังกล่าว เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ว่าจ้างแต่ก็มาถูกจับกุมได้ก่อน
เบื้องต้นทางหน่วยงานด้านความมั่นคง เตรียมขยายผลถึงแหล่งที่มาของกระท่อมผงซึ่งคาดว่ามาจากประเทศเพื่อบ้าน เนื่องจากบริเวณชายแดนไทยด่านสิงขร อยู่ติดกับชายแดนไทย เมียนมา อีกทั้งบริเวณพื้นที่ดังกล่าวทางหน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถจับกุมกระท่อมผงได้หลายครั้งซึ่งลักลอบขนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภทที่ 5 (กระท่อมผง) และนำของกลาง พร้อมผู้ต้องหาส่งสถานีตำรวจภูธรคลองวาฬ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป