ชาวบ้านผวา!! “ช้างป่าอ่างฤาไน” ฝูงใหญ่ออกหากิน นอกพื้นที่ไม่กลับเข้าป่า

ชาวบ้านตำบลท่าตะเกียบ ฉะเชิงเทรา ผวาฝูงช้างจากป่าเขาอ่างฤาไน กว่า 70 ตัว  ออกหากินนอกพื้นที่แล้วไม่ยอมกลับเข้าป่า (ชมคลิป)

(14มิถุนายน2561) สถานการณ์ฝูงช้างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ออกมาหากินนอกพื้นที่แล้วสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านและสร้างความเสียหายกับผลิตทางการเกษตร  ดูจะเบาบางลงไประยะหนึ่ง  แต่ล่าสุด ฝูงช้างป่า จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ก็ได้พากันออกมาหากินนอกพื้นที่อีกแล้ว    โดยช่วงเย็นจะพากันออกจากป่าชุมชน บริเวณ  เขานางหร่อง  เขาไผ่  เขาดิน และป่าชุมชนพ่อกำนัน  ซึ่งอยู่ด้านหลังสำนักสงฆ์วัดคลองมะหาด ในพื้นที่ หมู่ที่ 14 ตำบลท่าตะเกียบ ก่อนจะแตกฝูงๆละ 10 – 20 ตัว พากันออกหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน  และล่าสุดช้างป่าฝูงนี้ ได้มารวมตัวกันอาศุยอยู่บริเวณเชิงเขาสามร้อย ในพื้นที่หมู่ที่ 7  ตำบลท่าตะเกียบ

นายบุญเลิศ  ผิวพรรณ์ หัวหน้าชุดติดตามช้างป่าอำเภอท่าตะเกียบ  พร้อมเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ร่วมกันวางแผนเพื่อไล่ต้อนผลักดันให้ช้างฝูงนี้ ข้ามคูกั้นช้างแล้วกลับคืนสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน บริเวณคูกั้นช้าง บ้านอ่างเสือดำ พื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลท่าตะเกียบ แต่ดูเหมือนว่า ภารกิจนี้ไม่ไดง่ายอย่างที่คิด เพราะด้วยความชาญฉลาดของช้างป่า  เมื่อรู้ว่าถูกไล่ต้อน ผลักดัน จึงกระจายฝูง ออกเป็น  3 กลุ่มๆละ 20 -50 ตัว เดินหนีเสียงระเบิดลูกบอลที่เจ้าหน้าที่จุดใส่เพื่อไล่ต้อน  เดินข้ามถนนสายบ้านหนองปรือกันยาง-บ้านอ่างเสือดำ ฝูงหนึ่งเข้าไปในป่าปาล์มหลงจู๊จรัญ  อีกฝูงเข้าในป่าด้านหลังสำนักสงฆ์หลวงปู่เณร และอีกฝูงเดินไปทางด้านหลังเขายายซิ้ม

(ชมคลิป)

นายบุญเลิศ  ผิวพรรณ์  หน.ชุดติดตามช้างป่าอำเภอท่าตะเกียบ เปิดเผยว่า  ขณะนี้ฝูงช้างป่าได้ไปรวมตัวกันที่ด้านหลังป่าเขายายซิ้ม ในเขตตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต ซึ่งเป็นอุปสรรคกับการติดตามไล่ต้อนผลักดัน ซึ่งคาดเดาไม่ได้ว่า จะสามารถผลักดันกลับคืนป่าฤาไน ตรงจุดไหน เพราะ คูกั้นช้างใน กม. 45  อยู่ในเขตอำเภอท่าตะเกียบ  และกม. 47 – 48 อยู่ในเขตอำเภอสนามชัยเขต และเนื่องด้วยความมืดกับมีฝนตกลงมา   การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงทำได้เพียงเฝ้าติดตามดูและหากช้างฝูงนี้เดินย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่อำเภอท่าตะเกียบ ก็จะต้องผลักดันให้กลับคืนป่าอ่างฤาไนต่อไป ส่วนจะข้ามไปตรงจุดไหน ขึ้นอยู่กับช้างที่เป็นจ่าฝูง

ด้านลุงน้อม  พรมเสือ อายุ 65ปี  ชาวบ้านหมู่ที่ 5 บ้านหนองปรือกันยาง ต.ท่าตะเกียบ และเป็นจิตอาสา ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ไล่ต้อนช้างป่าทุกครั้ง  กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่ทำงานแบบเสี่ยงอันตรายมาก เพราะช้างป่าเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เพราะนอกจากจ่าฝูงที่คอยคุมเชิงแล้ว ยังมีช้างคอยดินหน้า เดินตามหลังและขนาบข้างเพื่อดูแลฝูงช้าง เจ้าหน้าที่ต้ออ่านพฤติกรรม นิสัยและอารมณ์ขณะนั้นด้วย แต่ช้างป่าที่นี่นิสัยไม่ดุร้ายหากไม่เหลืออดหรือหงุดหงิดจริงๆ จะไม่วิ่งเข้าชาร์ต แต่ถ้าหากช้างเครียดจัด โมโหจัด โกรธจัด ก็ต้องแสดงอาการออกมาให้เห็น ซึ่งต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะช้างที่มีลูกอ่อน ตั้งท้อง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะช้างเองก็ต้องต่อสู้เพื่อหาอาหารกิน  การไล่ต้อนผลักดันช้างจึงเป็นงานที่ยากและเสี่ยงอันตรายมากๆ

ข่าว/ภาพ ธนพัฒน์ เจียรสถิต จ.ฉะเชิงเทรา