พิษ“พายุปาบึก” สั่งปิด!! สนามบินสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 4 โมงเย็นวันนี

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  • 55
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
    55
    Shares

สั่งปิดสนามบินสุราษฎร์ธานี 4 โมงเย็นวันนี้- เที่ยงพรุ่งนี้ เหตุเส้นทาง”พายุปาบึก” อาจกระทบการบิน

วันที่ 4 มกราคม 2562  นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ นายวิทวัส ภักดีสันติสกุล รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์พายุปาบึก ณ ศูนย์ปฏิบัติการกลาง ณ กรมท่าอากาศยาน โดยได้ประเมินสถานการณ์ผ่านระบบ Video Conference กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานชุมพร ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานนราธิวาส ท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ก่อนจะสรุปสถานการณ์ช่วงเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา

เบื้องต้นมีประกาศปิดการให้บริการท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันนี้ (วันที่ 4 ม.ค. 2562) ถึงเวลา 12.00 น. ของวันพรุ่งนี้ ( วันที่ 5 ม.ค.62 ) เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า เส้นทางของพายุและความเร็วลม อาจมีผลกระทบต่อการทำการบินของอากาศยาน ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินนกแอร์ 2 เที่ยวบิน สายการบินไทยสมายล์ 4 เที่ยวบิน และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ 3 เที่ยวบิน โดยได้ออกประกาศ NOTAM และแจ้งสายการบินเพื่อประสานกับผู้โดยสารต่อไป

ส่วนท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 4 ม.ค. 2562 เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ส่วนระดับน้ำภายในและโดยรอบท่าอากาศยานอยู่ในสถานการณ์ปกติ สภาพอากาศมีลมและฝนค่อนข้างแรง โดยประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าพายุจะขึ้นฝั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันนี้ โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ บริษัทขนส่งได้เตรียมความพร้อมในการจัดส่งรถมาให้บริการ ณ ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช หากได้รับการร้องขอ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารไปยังจุดต่างๆในตัวเมือง

ด้าน นายกำแหง สายวิภู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ประกาศปิดท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีชั่วคราว ในวันที่ 4 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 12.00 น. เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งในวันนี้ (4 ม.ค.) ข้อความระบุว่า  ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยพายุโซนร้อน “ปาบึก” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อภาคใต้ โดยอาจทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงระหว่างวันที่ 4-5 มกราคม 2562  ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ จึงได้ออกประกาศนักบิน (NOTAM) เลขที่ c0050/19 ปิดสนามบินวันที่ 4 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 12.00 น. ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารที่ได้สำรองตั๋วไว้แล้ว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายการบินโดยตรง หรือท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี หมายเลขโทรศัพท์ 077-441230

สำหรับท่าอากาศยานชุมพร ได้เปิดให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ สภาพอากาศมีเมฆครึ้มไม่มีฝน ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่ท่าอากาศยาน มีการสำรวจและเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆเพื่อการให้บริการได้ตามปกติ

ขณะที่ท่าอากาศยานระนอง เปิดให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ สภาพอากาศมีเมฆครึ้มไม่มีฝน ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่ท่าอากาศยาน มีการสำรวจและเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆเพื่อการให้บริการได้ตามปกติ

ส่วนบท่าอากาศยานกระบี่ ยังสามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ สภาพอากาศมีลมและฝนเล็กน้อย เช่นเดียวกับ ท่าอากาศยานตรัง เปิดให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ สภาพอากาศมีฝนตกเล็กน้อย มีผู้โดยสารบางส่วนจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชที่เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานตรัง และบางส่วนเดินทางโดยรถขนส่งเรียบร้อยแล้ว สามารถเดินทางได้ตามปกติไม่มีตกค้างแต่อย่างใดและท่าอากาศยานนราธิวาส ได้เปิดให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ สภาพอากาศมีลมเล็กน้อย

ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานจะได้ติดตามและรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์พายุปาบึกอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประสานกับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมมือในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร สำหรับผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน หมายเลขโทรศัพท์พิเศษของศูนย์ปฏิบัติการกลาง ณ กรมท่าอากาศยาน โทร 02–287-0320-9 ต่อ 2593, 2595 ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โทร 075-450-545, 090-278-0065 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร 077-441230  ท่าอากาศยานระนอง โทร 077-862252-3 ท่าอากาศยานชุมพร โทร 077-591267-9 ท่าอากาศยานกระบี่ โทร 075-701471 ท่าอากาศยานตรัง โทร 075-572151 ท่าอากาศยานนราธิวาส โทร 073-565061-5

ประจวบโพสต์นิวส์  / Prachuppostnews

 

 

  • 55
    Shares