หน่วย EOD  กองบิน 5  ต.ช.ด.14 เคลื่อนย้ายลูกระเบิด  พร้อมเตรียมทำลายทิ้ง(ชมคลิป)

หน่วย EOD  กองบิน 5  ต.ช.ด.14 เคลื่อนย้ายลูกระเบิด  พร้อมเตรียมทำลายทิ้ง(ชมคลิป)

เจ้าหน้าที่ EOD กองทัพอากาศ กองบิน 5 เดินทางเข้ามาตามตรวจสอบระเบิดที่พบใต้สะพานรถไฟ วัตถุที่พบเป็นระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำหนัก 1000 ปอนด์ แบบทิ้งจากเครื่องบิน ตรวจสอบแล้วอยู่ในสภาพที่ไม่อันตราย สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ปลอดภัยได้เพื่อรอทำลาย ส่วนรถไฟที่จอดอยู่ที่ สถานีรถไฟหัวหิน 3 ขบวน สามารถเปิดใช้ได้ ตั้งแต่ 20.10 น. (สมบัติ ลิมปจีระวงษ์  รายงาน)

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย ผกก. สภ.ปราณบุรี เจ้าหน้าที่ EOD ตชด.14 ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่การรถไฟ ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมร่วมกันประชุมปรึกษาหารือกัน   หลังจากที่คนงานขับรถแบดโฮสร้างสะพานข้ามทางรถไฟรางคู่ขุดเจอลูกระเบิด ที่บริเวณใต้สะพานเหล็กรถไฟ ห่างจากสถานรถไฟวังก์พง 1 ก.ม. ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ว่าระเบิดที่พบเป็นระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำหนัก 1000 ปอนด์

กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ EOD กองทัพอากาศ กองบิน 5 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ EOD ตชด.ที่ 14 ได้เข้ามาตรวจสอบลูกระเบิดอีกครั้ง ซึ่งพบว่ายังอยู่ในสภาพที่ยังสมบูรณ์ แต่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบเคลื่อนย้ายออกไปไว้ในที่ปลอดภัยก่อน เพราะระเบิดมีอนุภาพระยะทำลายรัศมีประมาณ 1.7 ก.ม. ซึ่งจุดที่พบระเบิดใกล้กับบ้านเรือนประชาชน  มีประชาชนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญต้องเปิดให้รถไฟสามารถใช้การได้ตามปกติอย่างเร็วที่สุด

พันจ่าอากาศเอก ชนะ จันทร์กระจ่าง เจ้าหน้าที่ ชุด EOD กองทัพอากาศ กองบิน 5 กล่าวว่า โดยในเบื้องต้นตรวจสอบแล้วระเบิดอยู่ในสภาพที่ไม่อันตราย สามารถเคลื่อนย้ายได้  โดยวางแผนย้ายด้วยการย้ายไปไว้ในจุดที่สามารถทำลายได้ รัศมีอย่างน้อย 2 กิโลเมตร ปลอดภัยจากบ้านเรือนประชาชน โดยวิธีเคลื่อนย้ายจะต้องใช้รถเครนยกโดยมีสายรัดลูกระเบิดไว้เพื่อนำไปวางบนรถโดยใช้เชือกรัดหัวท้ายไม่ให้ระเบิดขยับและใส่ทรายรองในรถเพื่อพยุงระเบิดไว้ จำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายเพราะจะได้เปิดการเดินรถไฟผ่านจุดดังกล่าวได้

ส่วนการทำลายทิ้งจะต้องดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งหาพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีบ้านเรือนประชาชน โดยนำระเบิดไปไว้ในหลุมดินที่ขุดลึกอย่างน้อย 4เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อความปลอดภัยก่อนทำลายทิ้ง

สำหรับการกู้ระเบิดเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 19.00 น. โดยเจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮและใช้สายรัดลูกระเบิดผูกไว้แล้วนำไปวางไว้ท้ายรถบรรทุกสิบล้อโดยปูพื้นด้วยทรายเพื่อเป็นการพยุงไม่ให้ลูกระเบิดขยับ จากนั้นก็เคลื่อนย้ายรถออกจากสถานที่เกิดเหตุ เพื่อย้ายไปที่สนามบินร้าง บ้านเบญจพาส เป็นพื้นว่างเปล่าไม่มีบ้านเรือนประชาชน เหมาะสำหรับนำระเบิดไปไว้ ซึ่งระยะทางห่างจากจุดที่พบระเบิด 3 ก.ม. โดยเจ้าหน้าที่เตรียมขุดหลุมลึก 4 เมตร กว้าง 2 เมตรไว้แล้ว สำหรับนำลูกระเบิดมาใส่ไว้เพื่อรอการทำลาย    ส่วนการทำลายลูกระเบิดจะมีการดำเนินการในวันพรุ่งนี้ แต่ที่สำคัญต้องกันประชาชนไม่ให้เข้าใกล้บริเวณที่จะมีการทำลายลูกระเบิดในรัศมี 2 ก.ม.

หลังจากเคลื่อนย้ายลูกออกไปแล้ว เวลา 20.10 น. รถไฟขาล่องใต้ที่ต้องจอดพักอยู่ที่สถานีรถไฟหัวหิน จำนวน 3 ขบวน สามารถใช้การได้ตามปกติโดยรถไฟที่ออกจากสถานีหัวหินเป็นขบวนแรก รถเร็วขบวนที่ 171 กรุงเทพ สุโหงโกลก มาถึงสะพานเหล็ก สถานีวังก์พงเวลา 20.30 น.

ด้านนางศิริพร เผ่าพันธ์ นายก อบต.วังก์พง เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยที่ตนยังเด็กๆ พ่อแม่ เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยนั้นมีสงครามโลกพวกญี่ปุ่นบุกประเทศไทยนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ระเบิดทำลายสะพานรถไฟหลายแห่ง คาดว่าเป็นการทำลายเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงกำลังพล  หลังจากสงครามสงบ ก็มีชาวบ้านยังนำเอาระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมาทำเป็นระฆังถวายวัดและชาวบ้านเก็บไว้ก็หลายใบ แต่แปลกว่าทำไมถึงไม่ระเบิดชาวบ้านก็ไม่มีความรู้เรื่องระเบิด ส่วนลูกระเบิดลูกนี้คงจะตกลงไปในหนองน้ำที่มีโคลนอยู่ทำให้โคลนอุ้มลูกระเบิดไว้ทำให้ระเบิดไม่เกิดการกระแทกทำให้ไม่ระเบิดและจนขุดพบมาในวันนี้หน่วย EOD

ประจวบโพสต์/prachuppostnews