ซ่อมไม่ไหว!!ชาวบ้านทุ่งประดู่ ทับสะแก เดือดร้อนหนักคลื่นซัดบ้านพัง
ซ่อมไม่ไหว!!ชาวบ้านทุ่งประดู่ ทับสะแก เดือดร้อนหนักคลื่นซัดบ้านพัง
ประจวบโพสต์นิวส์-ชาวบ้านริมทะเลทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดือดร้อนหนัก หลังเกิดคลื่นสูง4เมตร พัดซัดเข้าหาดส่งผลบ้านเสียหายหนักหลายหลังคาเรือน ชาวบ้านชี้เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่ยืดเยื้อไม่แล้วเสร็จ ทำให้คลื่นลมเปลี่ยนทิศและทวีความรุนแรงสร้างปัญหาซ้ำซาก ล่าสุดนายอำเภอทับสะแกลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมสั่งแก้ปัญหาเร่งด่วนด้วยการทิ้งหินใหญ่ และวางถุงบิ๊กแบ็ก ในพื้นที่เสี่ยง
(วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563) บริเวณชายหาดหมู่2บ้านทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก พร้อมด้วย กำนันตำบลทับสะแก ผู้ใหญ่บ้านทุ่งประดู่ อบต.ทับสะแก ได้เดินทาง มาติดตามความเสียหาย หลังจากช่วงกลางดึก มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาชายฝั่งบ้าน ทุ่งประดู่ ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก โดนคลื่นซัดฝ่าแนวบิ๊กแบ็กกันคลื่นเดิมที่ตั้งไว้ เข้ามาจนกระทั่งเช้า ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก โดยมีชาวบ้านทุ่งประดู่ได้เดินทางมายังชายหาดบ้านทุ่งประดู่ พบปะพูดคุยกับนายอำเภอทับสะแก ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
นายสรรชัย พรามณีย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่2บ้านทุ่งประดู่ เป็นตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อน ยื่นหนังสือให้นายอำเภอทับสะแก โดยเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะกรมเจ้าท่าเนื่องจากเกิดเหตุ ในทุกๆปี จนแผ่นดินถูกกัดเซาะหายไปประมาณ500-800เมตร และตลอดแนวชายหาดประมาณ1กิโลเมตร
หลังรับหนังสือจากชาวบ้านแล้ว นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก กล่าวว่าได้สั่งการให้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้ง อส. อบต.ทับสะแก นำรถบรรทุกหินมาทิ้ง รวมทั้งถุงบิ๊กแบ็กมาใส่ทราย พร้อมรถแบ็กโฮ เข้ามาเติมในจุดอันตราย บริเวณบ้านเรือนประชาชน ที่ถูกคลื่นซัดจนพังเพื่อป้องกันความเสียหายไม่ให้หนักไปกว่านี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ต้องเป็นหน่วยงานเกี่ยวข้องของกรมเจ้าท่า ต้องเข้ามาทำแนวเขื่อนกันคลื่น ที่ค้างอยู่ให้เสร็จ เนื่องจากปัญหาที่ผ่านมาคือผู้รับเหมา ได้ทิ้งงานส่วนที่เหลือ จึงทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะอย่างหนัก ทุกครั้งในช่วงเกิดลมมรสุม
ด้านนางสาวปัณภิกา ภุมรินทร์ อายุ33ปี บ้านเลขที่72หมู่2 ตั้งอยู่ริมหาดบ้าน ทุ่งประดู่ ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก กล่าวว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดความเสียหาย จากคลื่นลมพายุทั้งในช่วงมรสุม และบางครั้งไม่ใช่ช่วงมรสุม ก็มีคลื่นใหญ่ซัดเข้ามากลางดึก ตนเองและครอบครัวหมดเงินซ่อมแซมไปหลายครั้งรวมมูลค่านับล้านบาทแล้ว เมื่อปีที่แล้วก็เคยติดป้ายประกาศขายที่ดินและบ้าน แต่ก็ยังขายไม่ได้ สิ่งสำคัญในบ้านตนเอง ทั้งแม่ ซึ่งอายุมากแล้วอาศัยอยู่ ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นโชคดีว่าแม่ และยายวัย99ปีนอนอยู่ในห้องพักด้านใน พร้อมหลาน ไม่เป็นอันตราย จึงอยากให้ภาครัฐ แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ต่อไป ก่อนที่บ้านเรือนจะถูกกลืนลงทะเลไปทั้งหมด ความจริงแล้วช่วงที่จะมีการสร้างแนวหินกันคลื่นที่ชายหาด ได้มีการมาสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ก็เห็นดีด้วย แต่สุดท้ายสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ปัญหาและความเสียหายจึงตกอยู่กับชาวบ้าน
ด้านนายสุชาติ สายเส็ง อายุ 51ปี เลขที่40หมู่2 ริมหาดบ้านทุ่งประดู่ กล่าวว่าคลื่นมาช่วงตีสาม สูงประมาณ3-4เมตร เมตร ตนเองได้ยินเสียงคลื่นลมมาเสียงดัง ตั้งแต่ตี1จึงตื่นมาดู พบว่าคลื่นซัดเข้ามาเรื่อยๆ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบกระทั่งเช้าเกือบถึงหน้าบ้านแล้ว โชคดีคลื่นลมเบาในช่วงเช้า หลังจากนั้นทั้งผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ได้นำรถแบ็กโฮมาโกยทรายเข้าไปด้านในที่ถูกกัดเซาะ รวมทั้งใช้ไม้ปักลงไปพร้อมเอายางรถยนต์สวมเอาไว้เป็นแนวป้องกัน เพราะไม่มั่นใจว่าคืนนี้จะมีคลื่นใหญ่พัดเข้ามาอีกหรือไม่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะการทำเขื่อนของกรมเจ้าท่า ที่ไม่ได้ทำตลอดแนว การทิ้งงาน สิ่งสำคัญกรมเจ้าท่า ต้องเร่งหาผู้รับเหมามาดำเนินการก่อสร้างแนวเขื่อนกันคลื่นที่เหลืออีกประมาณ800เมตร เชื่อว่าจะป้องกันได้อย่างเป็นรูปธรรม การกัดเซาะก็จะไม่เกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2562 ปีที่ผ่านมาทางฝ่ายปกครองอำเภอทับสะแก ได้นำถุงบิ๊กแบ็กสีขาวมาทำเป็นแนวป้องกันคลื่นเอาไว้ที่บริเวณชายหาดบ้านทุ่งประดู่ส่วนหนึ่ง เพื่อป้องกันคลื่นลมให้กับชาวบ้าน จนกระทั่งในเดือนมกราคม ที่ผ่านมาได้เกิดคลื่นลมซัดเข้าหาฝั่ง จนแนวถุงบิ๊กแบ็ค ได้เสียหายจมไปกับทรายทั้งหมดกระทั่งมาเกิดคลื่นซัดสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนในครั้งนี้อีก
อย่าลืม!!!
ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper
?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/prachuappost/
https://www.facebook.com/prachuppost/
***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่