ปศุสัตว์ระบุชัด ม้าตายที่หัวหิน8ตัว ออกพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือด
ปศุสัตว์ระบุชัด ม้าตายที่หัวหิน8ตัว ออกพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือด
ประจวบคีรีขันธ์ -ความคืบหน้าเหตุม้าตายที่หัวหิน ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกันลงพื้นที่สอบสวนโรค ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือดในคอกม้าทุกแห่ง รวมถึงในพื้นที่ที่พบม้าตาย พร้อมแจ้งเจ้าของม้าที่เหลือ งดนำม้าออกให้บริการนักท่องเที่ยวที่ชายหาดหัวหิน ด้านเจ้าของคอกม้าครวญสูญเงินหลายแสนแทบหมดตัวไม่มีเงินลงทุนต่อ
วันที่ 30 มีนาคม 2562 นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด , นายสัตวแพทย์พิทยา คณะมะ ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน และ นายศฺวัช บุญเกิด รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นายธีระพันธ์ จัดพล ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.หัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองหัวหิน ลงพื้นที่ซอยเขาพิทักษ์ ซอยบ่อนไก่ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่เลี้ยงม้าชายหาดหัวหิน หลังพบม้าชายหาดมีอาการป่วยในเวลาไล่เลี่ยกัน ด้วยอาการ ซึม ไม่กินอาหาร ปากบวม ลิ้นบวม เยื่อเมือกเป็นสีคล้ำ กล้ามเนื้อสั่น เดินเซ ไข้สูงในบางตัว และตายอย่างเฉียบพลัน หลังแสดงอาการเพียงแค่ 2 -3 วัน ข้อมูลล่าสุดขณะนี้พบว่ามีม้าตายรวมแล้วจำนวน 8 ตัวแล้ว ในละแวกเดียวกัน แต่วันนี้ยังไม่พบว่ามีม้าป่วยหรือตายเพิ่มขึ้น
ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีม้าชายหาดตายต่อเนื่องรวม 8 ตัว จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นสันนิฐานว่าน่าจะเป็นอาการของโรคพยาธิในเลือด ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งแต่โรคนี้มียารักษา แต่ก็พบว่าอาการของม้าที่ป่วยตายมีลักษณะหลายอย่างใกล้เคียงกับโรคกาฬโรคม้าที่พบป่วยตายจำนวนมากที่ จ.นครราชสีมานั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันโรค ต้องรอผลการตรวจเลือด ชิ้นเนื้อต่างๆที่ส่งตรวจไว้ที่ห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก จ.ราชบุรี คาดทราบผลในอีก 1-2 วัน นี้
ทั้งนี้หากผลตรวจยืนยันว่าเป็นกาฬโรคม้าจริง จะต้องมีการประกาศพื้นที่โรคระบาดสัตว์ และทำลายสัตว์ป่วย และต้องเร่งค้นหาต้นตอของเชื้อโรค ว่าสัตว์หรือแมลงชนิดใดเป็นพาหะ หรือเป็นแหล่งรังโรค รวมทั้งตรวจสอบสัตว์ตัวที่ป่วยแต่ไม่แสดงอาการ หรือที่เรียกว่า”อมโรค”ไว้เพื่อทำลายเชื้อให้หมด ในระยะนี้ห้ามเคลื่อนย้าย หรือนำเข้าม้าเป็นการชั่วคราว รวมถึงขอความร่วมมือห้ามนำม้าลงชายหาดเป็นการชั่วคราวด้วยเช่นกัน จนกว่าจะรู้โรคชัดเจน และทำลายเชื้อได้หมด
สำหรับในวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองสาธารณสุข เทศบาลเมืองหัวหิน เข้าฉีดพ่นยาฆ่าแมลง โดยได้เพิ่มปริมาณยาให้มีความเข็มข้นสูงโดยยาฆ่าแมลงจะต้องมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อตัดวงจรชีวิตของแมลง โดยเฉพาะแมลงดูดเลือด ทั้งยุง ริ้น ไร ต่างๆ ตามคอกที่อยู่อาศัย สิ่งของที่ม้าใช้ ฯลฯ ซึ่งแมลงดูดเลือด เป็นพาหะนำโรคในสัตว์ โดยจะฉีดพ่นยาฆ่าแมลงตามคอกม้าต่างๆกว่า 70 ตัว รวมทั้งในคอกม้าที่พบมีม้าตายด้วย อีกทั้งได้แนะนำให้เจ้าของม้า กางมุ้งให้ม้าตามคอกที่ยังไม่พบอาการป่วยด้วย เพื่อป้องกันอีกทางหนึ่ง และให้เฝ้าสังเกตุอาการของม้าใกล้ชิดหากเริ่มมีอาการป่วยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นายสำอางค์ อำพวา อายุ 67 ปี เจ้าของคอกม้า ซอยเขาพิทักษ์ กล่าวว่า เลี้ยงม้าเป็นอาชีพมานานกว่า 40ปี แล้ว ไม่เคยพบอาการป่วยของม้าแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมามีเพียงอาการท้องอืด แน่นท้องแล้วป่วยตายเท่านั้นที่เป็นปัญหา แต่มาพบอาการป่วยกะทันหันแค่ไม่กี่วันแล้วตายเลยแบบนี้ยังไม่เคยเจอมาก่อน สำหรับคอกของตนนั้น มีม้าตายรวม 6 ตัว โดย 1ตัว เป็นของหลาน อีก 2 ตัว เป็นของลูกชาย และของตนเอง ตายอีก 3 ตัว ซึ่งม้าที่ตายมีราคาสูงตัวละ 8-9 หมื่นบาท ซึ่งตัวที่ตนรัก เป็นม้าหนุ่ม อายุ 10ปี ชื่อโซลักกี้ สีน้ำตาลเข้ม ลักษณะดี และเคยร่วมแสดงหนังมาแล้ว ราคาสูงกว่า 130,000 บาท ซึ่งตายเป็นตัวล่าสุด รู้สึกเสียดายมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและฆ่าแมลงที่คอกแล้ว ในอนาคตคิดกลับมาเลี้ยงม้าอีก แต่ต้องหาทุนก่อน เพราะตอนนี้เรียกได้ว่าหมดตัวแล้ว
อย่าลืม!!!
ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper
?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/prachuappost/
https://www.facebook.com/prachuppost/
***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/groups/387550115078888/
…………………………………………………………………………
ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน
Website: http://www.prachuppostnews.com/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…
Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews
IG : www.instagram.com/ prachuppostnews