ไม่รอด!ผบช.ภ7แถลงจับ4ผู้ต้องหาโกงล๊อตเตอรี่ ฝากขังเรือนจำประจวบฯ3 ราย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ สภ.หัวหิน ร่วมสอบปากคำนาย อนุชา หรือแซม ทุ่งคำ ยี่ปั๊วรายใหญ่ อยู่ที่นนทบุรีซึ่งอ้างว่ามีโควต้าสลากินแบ่งรัฐบาล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาที่รับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาที่หัวหิน งวดสุดท้าย 130 ล้านบาท ในการสั่งซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 3,000 กล่อง ส่วนผู้ต้องหา 3 ราย ชาวหัวหินตำรวจได้ส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วตั้งแต่วานนี้ เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” และส่งเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการ ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะที่ผู้เสียหายส่วนหนึ่งเดินทางมาที่ สภ.หัวหิน และให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมาสอบผู้เสียหายหัวหินไป 32 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 24 ล้านบาทเบื้องต้น ที่เหลืออีกกว่า 40 รายยังไม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความ
( วันที่ 30 มกราคม 2565 )ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีผู้เสียหาย จากการลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล มาจำหน่ายแล้วไม่ได้สลากฯในงวดสุดท้ายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา 3,000 กล่องโดยมีการโอนเงินรวมทั้งสิ้น 130 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายในงวดวันที่ 1 มกราคม 2565 แต่อย่างใด และต่อมาเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เสียหาย 32 ราย ส่วนหนึ่งอยู่ที่อำเภอหัวหิน ได้เดินทางเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน พร้อมนำเอาสาร หลักฐาน และสลิปการโอเงิน รวมทั้งบัญชีที่โอนเงินไปยังบุคคลต่างๆ มอบเป็นหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวน
ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากมีการแจ้งความแล้ว พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนสืบสวน เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และมีมูลค่าความเสียหายสูง จนต่อมาทางตำรวจมีการขออนุมัติศาลจังหวัดหัวหิน ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 ราย ประกอบด้วยนายอนุชา(แซม) ทุ่งคำ ยี่ปั๊วรายใหญ่ อยู่ที่นนทบุรี มีภูมิลำเนา จ.สุโขทัย ,นายภาณุพงศ์(ชีส) ชุมภารี เจ้าของร้านจำหน่ายสลากินแบ่งรัฐบาล ล๊อตโต้ชีส หัวหิน, นาย อนุสรณ์ (กอล์ฟ) ชุมภารี และ นายบัณฑิต (ปอง)เฟื่องฟู ทั้งหมดเป็นชาวอำเภอหัวหิน
กระทั่งต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับตำรวจ สภ.หัวหิน ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาโดย นายอนุชา หรือแซม ได้ที่บ้านพักในจังหวัดพิษณุโลก ส่วนอีก3 รายจับได้ที่อำเภอหัวหิน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน สำหรับนายภาณุพงศ์ ,นายอนุสรณ์ และนายบัณฑิตย์ หลังสอบสวนแล้วได้ส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วานนี้ ส่วนนายอนุชา หรือแซม ยังอยู่ระหว่างสอบสวน และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.หัวหิน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ 30 มกราคม 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.รักษ์จิต หม้อมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าคณะทำงานชุดสอบสวนคดีโกงสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ต.อ.เจริญ ชนประเสริฐ หัวหน้าทีมพนักงานสอบสวนและ พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน พร้อมพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง.ผกก.สอบสวน สภ.หัวหิน ,พ.ต.ท. กานต์ บุญประคอง รอง.ผกก.สส.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน ได้เข้าร่วมประชุมติดตามผลการสอบสวน ในเวลาต่อมา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ดำเนินการสอบสวนนายอนุชา(แซม) ทุ่งคำ ยี่ปั๊วรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รับเงินที่นายภาณุพงศ์ (ชีส) พร้อมพวก รวบรวมเพื่อสั่งซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่าสำหรับพฤติกรรมของคดีนี้คือ 3 ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ที่หัวหิน มีพฤติกรรมร่วมกันโดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ด้วยการติดต่อชักชวนประชาชนทั่วไป และประกาศข้อความทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่ามีผู้ใหญ่ซึ่งมีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้ร่วมกันสั่งจองกับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาถูกใบละ 78-79 บาท จึงทำให้มีผู้เสียหายรวม32 คนในเบื้องต้นหลงเชื่อ และโอนเงินสั่งจองสลากินแบ่งรัฐบาลกับผู้ต้องหา ช่วงแรกได้สลากตามที่สั่งซื้อ ต่อมามีผู้เสียหายสั่งซื่อสลากฯเพิ่มขึ้น จำนวนเงินสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ไม่ได้สลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อมาเมื่อผู้เสียหายมีการทวงถามไปที่ นายภาณุพงศ์(ชีส) ชุมภารี เจ้าของร้านจำหน่ายสลากินแบ่งรัฐบาล ล๊อตโต้ชีส หัวหิน จึงได้แจ้งกับผู้เสียหายว่า มีนายอนุชา หรือแซม ซึ่งเป็นยี่ปั้วรายใหญ่อยู่ที่นนทบุรี อ้างว่ามีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูก เป็นผู้รับโอนเงิน ทำให้ในเบื้องต้นขณะนี้จากการสอบสวนผู้เสียหายไป 32 ราย ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 24,063,640 บาท
อย่างไรก็ตามทราบว่าเบื้องต้นมีผู้เสียหายประมาณ 81 ราย แต่ส่วนหนึ่งยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากบางส่วนอยู่ในพื้นที่อื่นๆด้วย ดังนั้นหากประชาชนที่เสียหายจากกรณีดังกล่าวสามารถเข้าแจ้งความได้ในสถานีตำรวจท้องที่ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่าจาการตรวจสอบประวัติของ นายอนุชา (หรือแซม) พบว่าเคยก่อคดีฉ้อโกงประชาชนในจังหวัดสุโขทัย และท้องที่ สน.สายไหม และก่อเหตุมาหลายพื้นที่ ทั้งตำรวจภูธรภาค 1,3และภาค 5 มีมูลค่าความเสียหายมากกว่าที่ หัวหิน หลังจากนี้หากประชาชนที่ทราบข่าวและได้รับความเสียหายยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ขอให้เข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในต่างกรรมต่างวาระกัน ในเรื่องนี้มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเท่าที่ทราบรายที่เสียหายมากที่สุดมูลค่าถึงสามล้านบาท
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา”ฉ้อโกงประชาชน” แล้วยังต้องมีความผิดมูลฐานของกฎหมาย ฟอกเงินด้วย ซึ่งได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานแจ้งไปยังสำนักงานเลขาธิการ ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป รวมทั้งเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนที่ตั้งขึ้นมารวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขยายผลต่อไปให้ถึงที่สุด พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธก็ตาม แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐาน เอกสารที่แน่หนาซึ่งสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในครั้งนี้ได้
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันมีผู้เสียหายชาวหัวหิน และญาติฯของผู้ต้องหาส่วนหนึ่งได้เดินทางไปที่ สภ.หัวหิน เพื่อที่จะดูหน้า “นายอนุชา” ผู้ต้องหา และติดตามการแถลงข่าวและพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของทั้งตำรวจ สภ.หัวหิน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ในส่วนมูลค่าความเสียหายของชาวหัวหิน กว่า 20 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายรายใหญ่อีกกว่า 70 ล้านบาท และตัวของนายภาณุพงศ์(ชีส) เจ้าของร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ล๊อตโต้ชีสหัวหิน กว่า 30 ล้านบาท รวมๆมูลค่ากว่าเสียหายประมาณ 130 ล้านบาท
อย่าลืม!!!
ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper
📌กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่
***กดเข้ากลุ่ม 👨👩👧👦 กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่
ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน
Website: http://www.prachuppostnews.com/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…
Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews
IG : www.instagram.com/ prachuppostnews
