STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ” ส่งเสริมการบริจาคอาหารให้แก่ผู้ที่ต้องการอาหารในสังคม

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ร่วมกับ มูลนิธิ SOS Thailand (Scholars of Sustenance Thailand)  จัดโครงการ “STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ”  ส่งเสริมการบริจาคอาหารให้แก่ผู้ที่ต้องการอาหารในสังคม 

(วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567) มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดวิทยาเขตหัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุุรี นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการ “STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ”   และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง โดยมี ดร.ยุ่นหลิน หยาง รองอธิการบดี วิทยาเขตเพชรบุรี – หัวหิน กล่าวต้อนรับ ร่วมด้วย นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ,นางสาวไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน  หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำชุมชมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เข้าร่วม

โครงการ “STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ” จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการบริจาคอาหารให้แก่ผู้ที่ต้องการอาหารในสังคม โดยมีเป้าหมายในการลดปัญหาความอดอยากอาหาร และการสูญเสียอาหารในประเทศไทย โครงการนี้เป็นการรวบรวมอาหารจากร้านค้า ร้านอาหาร และผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำไปจัดส่งให้กับชุมชมชนที่ต้องการ โดยประสานงานกับองค์กรการกุศลและหน่วยงานที่ดูแลผู้ขาดแคลน

มูลนิธิ S.O.S Thailand ร่วมกับ Stamford Intemational University มีความตั้งใจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการเชิญชวนและขอความร่วมมือจากทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งโนโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคอาหารหรือการช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการช่วยลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งขยะเน่าเสียที่เป็นตัวทำให้เกิดลดมลพิษทางอากาศได้ดีอีกด้วย

มูลนิธิ SOS Thailand ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือด้านอาหารในประเทศประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 โดยปัจจุบันมีศูนย์บริการ 4 แห่งทั่วประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ , ภูเก็ต , หัวหิน และเชียงใหม่ ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินการของโครงการจนถึงปัจจุบัน S.O.S Thailand ได้ช่วยเสิร์ฟอาหารให้กับชุมชนไปแล้วกว่า 46.6 ล้านเสิร์ฟ และปริมาณอาหารที่ได้รับความอนุเคราะห์ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสาทุกท่านเป็นจำนวนกว่า 11.1 ล้านกิโลกรัม รวมไปถึงให้การสนับสนุนแก่ชุมชนไปแล้วกว่า 4,200 ชุมชนอีกด้วย

///////////////////////