ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ สั่งเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำแรงดันสูง เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมหัวหิน
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งระดมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมหัวหิน หลังกรมอุตดนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฝนตกหนักถึงหนักมาในภาคใต้ 8 จังหวัด ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายนนี้
(วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567) นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ บริเวณคลองเขาตะเกียบ ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำสายหลักของเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอหัวหิน ระหว่างวันที่ 4 -6 พฤศจิกายน นี้ หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศลับล่าสุด เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ใน 8 จังหวัด รวมถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายอภิวัฒน์ เลาหวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ,นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 8 เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 4–6 พฤศจิกายน 2567 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ 8 จังหวัด รวมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ต้องการการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การเกิดอุทกภัย และเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เศรษฐกิจ อย่างเขตเทศบาลเมืองหัวหิน โดยได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ปภ.เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ,ปภ.ประจวบคีรีขันธ์ ,และสำนักงานชลประทานที่ 14 ในการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง เพิ่มเติมจากที่เทศบาลเมืองหัวหินได้ติดตั้งไปก่อน เพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด
สำหรับคลองเขาตะเกียบ หรือคลองพระราชดำริ มีโอกาสที่น้ำเอ่อท่วมในบบริเวณชุมชน เนื่องจากตอนนี้ปริมาณน้ำในคลองมีปริมาณค่อนข้างมาก รวมทั้งในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่อาจจะเกิดน้ำทะเลหนุนสูง ดังนั้นในคลองเขาตะเกียบ จะมีทั้งเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังแรงสูงสุด 28,000 ลิตรต่อนาที เพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด เกิดการท่วมขังน้อยที่สุด รวมทั้งจะต้องติดตั้งเครื่องสูบ ที่สวนหลวงราชินี เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากชุมชนอีกทางหนึ่ง ไม่ให้มีปริมาณน้ำสะสมท่วมขังบ้านเรือนประชาชนและย่านเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ในพื้นที่จุดเสี่ยงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว คือ อำเภอบางสะพาน และอำเภอทับสะแกที่มีโอกาสเกิดน้ำท่วมขังชุมชน