ชาวบ้านบึงนคร อำเภอหัวหิน เดือดร้อนหนักทางเข้า-ออกถูกน้ำป่าซัดพัง”พิษพายุเซินติญ”
ชาวบ้านบึงนคร อำเภอหัวหิน เดือดร้อนหนักทางเข้า-ออกถูกน้ำป่าซัดพัง”พิษพายุเซินติญ”(ชมคลิป)
ปลัดอำเภอหัวหิน พร้อม องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกสำรวจพื้นที่หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจากพายุเซินติญ จนทำให้น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลทะลักลงสู่ น้ำตกแพรกตระคร้อ และไหลลงสู่แม่น้ำปราณบุรี ซึ่งไหลผ่านตำบลบึงนคร ทำให้ฝายทางข้ามแม่น้ำปราณบุรีอย่างน้อย 3 จุดพังเสียหายระดับน้ำสูงไหลเชี่ยวทำให้ชาวบ้าน ตำบลบึงนคร และชาวบ้านอำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด ที่เข้าออกในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะพืชผลการเกษตรมะเขือเทศได้รับความเสียหาย เบื้องต้นทางปลัดอำเภอหัวหิน คาดว่าอีก 2-3 วันน้ำจะลง ในส่วนเส้นทางที่ไม่เสียหายชาวบ้านก็จะใช้การได้ ส่วนที่เสียหายหนักนั้นให้ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร ดำเนินการซ่อมแซมให้สามารถใช้การได้โดยเร็วต่อไป
วันที่ 21 กรกฎาคม 2561 หลังจากเกิดฝนตกหนักในหลายวันที่ผ่านมา จากพายุเซินติญ ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแห่งต้นน้ำที่สำคัญ และยังมีหมู่บ้านถึง 12 หมู่บ้านของตำบลบึงนคร ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารยังไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมทั้งเส้นทางส่วนใหญ่เป็นถนนลูกลัง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร และพื้นที่ 12 หมู่บ้านของตำบลบึงนคร มีแม่น้ำปราณบุรี ไหลผ่านก่อนที่น้ำจะไหลไปลงเขื่อนปราณบุรี โดยชาวบ้านหลายหมู่บ้านไม่สามารถข้ามเข้า-ออกระหว่างตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน ไปยังอำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด ได้มาตั้งแต่วันที่ 18 กรกฏาคม 2561 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 4 วันแล้ว ถึงแม้ฝนจะเริ่มหยุดตกลงแล้วในพื้นที่ก็ตามแต่ระดับน้ำที่ไหลผ่านลงแม่น้ำปราณบุรี ก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนปราณบุรี ต้องไหลผ่านฝายน้ำล้นหลายแห่งซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรเข้าออกของพื้นที่ ระดับน้ำยังคงสูงอยู่และไหลเชี่ยว จนรถยนต์ จักรยานยนต์ ไม่สามารถที่ใช้สัญจรและขนพืชผลทางการเกษตรออกไปส่งจำหน่ายในตัวเมืองได้ จนพืชผลเน่าเสียหาย
โดยในวันนี้ นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นายจันทร์ เรืองโชติ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อ.หัวหิน นายสุวิทย์ น้ำกลั่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านท่าไม้ลายตลอดจนชาวบ้านบึงนคร ได้ออกสำรวจเส้นทางการคมนาคมที่ใช้เข้าออกพื้นที่หมู่บ้านต่างๆของตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน ไปยังหมู่บ้านและอำเภอใกล้เคียงได้ โดยบริเวณจุดทางข้ามหลักสามอำเภอจาก หมู่บ้านในตำบลบึงนคร อ.หัวหิน ที่จะข้ามผ่านแม่น้ำปราณบุรี ซึ่งทางข้ามเป็นฝายน้ำล้นขนาดใหญ่ระยะทางประมาณ 30 เมตร ฝ่ายทางข้ามส่วนหนึ่งได้ถูกน้ำป่ากัดเซาะขาดออกจากกันจนเป็นช่องว่างประมาณ 15 เมตร โดยทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ไม่สามารถข้ามผ่านได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมาผูกไว้เป็นการแจ้งเตือนเพื่อป้องกันอันตรายเพื่อห้ามผ่านลงไป โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดทีชาวบ้านของ 3 อำเภอหลักใช้เดินทางเข้า ออกเนื่องจากมีทั้งบ้านเรือน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก วัด และสำนักสงฆ์ต่างๆ
นอกจากนั้นยังสำรวจพบฝายทางข้ามแม่น้ำปราณบุรี อีกหลายหมู่บ้านในตำบลบึงนคร อีกหลายจุดที่ฝายทางข้ามได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้ นอกจากนั้นยังพบว่ายังเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่มีความลึก ริมถนนก่อนที่จะลงฝายทางข้ามแม่น้ำปราณบุรีหมู่ 6 บ้านท่าไม้ลาย ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมาขึงไว้รวมทั้งนำก้านปาล์มมากั้นขวางถนนเอาไว้ เพื่อความความปลอดภัยและเป็นจุดสังเกต
นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน กล่าวด้วยว่าขณะนี้การสำรวจความเสียหาย ในพื้นที่ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน บางจุดต้องรอระดับน้ำที่ไหลผ่านข้ามฝายทางข้ามแม่น้ำปราณบุรี ให้ลดลงก่อนจึงจะสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดว่ามากน้อยขนาดไหน เพราะวันนี้ถึงแม้ฝนจะลดลงแล้วก็ตาม แต่น้ำป่าที่ไหลจากมาจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลลงสู่น้ำตกแพรกตระคร้อ แหล่งต้นน้ำที่สำคัญก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปราณบุรี ซึ่งไหลผ่าน 12 หมู่บ้านของตำบลบึงนคร ก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนปราณบุรี
เบื้องต้นขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะ เดือดร้อนในเรื่องของเส้นทางการคมนาคมเข้าออกหมู่บ้านไปยัง 3 อำเภอทั้งอำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด หลายร้อยครัวเรือนที่เดือนร้อน รวมไปถึงพืชผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะมะเขือเทศไม่สามารถนำไปส่งจำหน่ายในตัวเมืองได้ ทั้งนี้ชาวบ้านในบึงนคร ยังคงอาศัยหลีกเลี่ยงเส้นทางหลักที่เสียหาย หันไปอ้อมใช้เส้นทางอื่นๆที่มีสะพานข้ามแม่น้ำปราณบุรี แต่จะใช้เวลาค่อนข่างพอสมควรในการที่จะเดินทางไปสู่ตัวเมืองหัวหิน อำเภอปราณบุรี และอำเภอสามร้อยยอด
ส่วนการท่องเที่ยวในพื้นที่น้ำตกแพรกตระคร้อ ก็ไม่สามารถที่จะขึ้นไปท่องเที่ยวได้เนื่องจากเส้นทางขึ้นพังเสียหาย และไม่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะในตัวน้ำตกแพรกตระคร้อก็ยังมีปริมาณน้ำป่าที่ยังคงไหลลงมาอย่างต่อต่อเนื่อง
ซึ่งหากระดับน้ำลดกลับเข้าสู่สภาวะปรกติ สามารถที่จะซ่อมแซมเส้นทางให้การใช้งานสัญจรเข้าออกได้เป็นการชั่วคราวนั้น ก็จะให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร เข้ามาซ่อมแซมส่วนทางข้ามฝายน้ำล้นแม่น้ำปราณบุรี คาดว่าหากน้ำป่าเริ่มลดน้อยลง และไม่มีฝนตกลงมาซ้ำภายในช่วง 2-3 วัน นี้ ชาวบ้านก็น่าจะสามารถใช้สัญจรเข้าออกได้ในส่วนที่ไม่เสียหาย
ประจวบโพสต์นิวส์/Prachuppostnews