ปรับ!! ร้านอาหารหาดทรายน้อย ขายเฟรนซ์ฟรายแพงเกินจริง
พาณิชย์ จ.ประจวบฯ ปรับ!! ร้านอาหารหาดทรายน้อย ขายเฟรนซ์ฟรายแพงเกินจริง
พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารหาดทรายน้อย จำหน่ายเฟรนซ์ฟรายเกินราคา ล่าสุดเตรียมทำหนังสือเรียกเจ้าของร้าน มาทำการเปรียบเทียบปรับ ส่วน สคบ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ตักเตือนร้านค้าไม่ให้กระทำผิดอีก เพราะกระทบชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยว พร้อมเตรียมเรียกผู้ประกอบการร้านอาหารในเมืองหัวหิน วางมาตรการคุมเข้มไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ความคืบหน้ากรณี นักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่มาพักผ่อนและสั่งอาหาร ในร้านอาหารที่หาดทรายน้อย หมู่บ้านเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา แต่กลับพบว่า มีการจำหน่ายเฟรนซ์ฟรายในราคาจานละ 120 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงเกินจริง ประกอบกับเฟรนซ์ฟรายที่นำมาเสิร์ฟ มีปริมาณน้อย เหี่ยว ดำ ไม่น่ารับประทาน นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวะได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงโลกโซเซี่ยลฯ จนที่เป็นวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเมื่อวานนี้ เทศบาลเมืองหัวหิน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และพบว่า ร้านอาหารกระทำผิดจริงคือ จำหน่ายเฟรนซ์ฟรายเกินราคาที่กำหนดไว้ในเมนู ซึ่งในเมนูระบุราคา 90 บาท และได้นำเรื่องดังกล่าวส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ สคบ.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินการลงโทษตามขั้นตอน
ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 26 ต.ค. 61) นายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายสมเจตร์ เจริญทรง ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นายธีระพันธ์ จัดพล ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองหัวหิน นางแสงประทีป คุณาธิมาพันธ์ สคบ.ประจวบคีรีขันธ์ ทหารและเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ลงพื้นที่ร้านอาหารดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเข้าพบกับ นางเอมอร กรองแก้ว อายุ 48 ปี เจ้าของร้านอาหาร ซึ่งได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่ขึ้น โดยระบุว่าในวันเกิดเหตุตนออกไปทำธุระข้างนอก พนักงานที่จ้างมาใหม่เป็นคนทำเฟรนซ์ฟรายและจัดการคิดเงิน แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของทางร้านเอง
นายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเป็นที่ชัดเจนว่ามีการจำหน่ายอาหารเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ในเมนู ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ ทางร้านค้าจึงมีความผิด จะต้องดำเนินการเทียบเปรียบปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งตามขั้นตอนทางพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะมีหนังสือเรียกให้เจ้าของร้าน ไปทำการเปรียบเทียบปรับ ในส่วนของ สคบ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการตรวจสอบลักษณะอาหารไม่ตรงกับรูปที่ระบุในเมนู ในเบื้องต้นได้ทำการว่ากล่าวตักเตือน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อ ผู้ร้องเรียนได้ ซึ่งหากติดต่อหรือยืนยันตัวตนได้ ทาง สคบ.จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน อาจจะมีการชดใช้คืนเงินเป็นต้น
ทั้งนี้ยอมรับว่าจากเหตุการณ์การจำหน่ายอาหารแพงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันทั้ง 2 กรณี ส่งผลต่อภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน ล่าสุดอำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อวางมาตรการคุมเข้มการจำหน่าย และกำหนดราคาอาหาร ไม่ให้เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย รวมทั้งจะต้องร่วมกันสร้างภาคีเครือข่ายในการดูแลร้านค้าอาหารร่วมกัน ทั้งในระดับผู้ประกอบการด้วยกันเอง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องเข้าไปร่วมบูรณาการตรวจสอบ โดยจะจัดประชุมร่วมกันครั้งแรกในวันที่ 30 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
ประจวบโพสต์นิส์ / Prachuppostnews