เปิดศูนย์ป้องกันและปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงปีใหม่
เปิดศูนย์ป้องกันและปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงปีใหม่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดศูนย์ป้องกันและปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ เนื่องจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเส้นทาลงสู่14จังหวัดภาคใต้มีความยาวถึง220 กิโลเมตร ทำให้หลายหน่วยงานขนอุปกรณ์เตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนขนส่งตรวจเข้มรถโดยสารติดตั้งGPS ควบคุมความเร็วเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว
วันที่ 25 ธันวาคม 2561 ที่บริเวณหน้าศาลกาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดศูนย์ป้องกันและปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561-2 มกราคม 2562 พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ขนส่งขังหวัด แขวงการทางประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน มูลนิธิ สถานการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ฯลฯเข้าร่วมพิธีเปิด
นายกิตติภรณ์ เทพอยู่สุข ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าเนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนทั้งสายหลักและสายรองเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาทั้งการจราจรที่ติดขัดและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่า ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เตรียมความพร้อมและแผนต่างๆเอาไว้ทั้งหมดแล้วมีการปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในวันนี้นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการปล่อยขบวนรถยนต์จากหน่วยงานต่างๆไม่ว่าจะเป็น ตำรวจทางหลวง แขวงการทางหลวงประจวบตีรีขันธ์ (หัวหิน) หน่วยกู้ชีพของมูลนิธิ และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุของหน่วยงานต่างๆ พร้อมมีการเดินรณรงค์เมาไม่ขับ ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้ง
นางสุชาดา เผือกประเสริฐ ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี รักษาการขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังได้ให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องตรวจจับความเร็วมาใช้ตรวจจับความเร็วในพื้นที่เส้นทางถนนเพชรเกษมหมายเลข 4 จากถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ลงไปถึงพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย ทั้งนี้ขอย้ำเตือนให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งรถยนต์โดยสารชนิดต่างๆ ต้องไม่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากพบกว่าฝืนก็จะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งได้มีการประสานงานกับตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ไว้ด้วย
และสิ่งสำคัญในรถโดยสารยังมีการติดตั้งGPS ไว้ทุกคันและก่อนที่รถจะออกจากสถานีหรือท่ารถจุดต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกคัน และผู้ขับขี่จะต้องใช้บัตรรูดแทบที่ติดตั้งภายในรถก็จะทำให้GPS ทำงานทันทีและสามารถติดตามดูรถโดยสารว่าอยู่จุดไหน ความเร็วตามกำหนดหรือไม่ โดยสัญญาณจากถูกส่งมายังศูนย์ควบคุมทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารมีความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะหากเกิดอุบัติเหตุก็จะสามารถทราบได้ทันที่ว่าอยู่จุดไหนของเส้นทางการจราจร