‘เรือหลวงจักรีนฤเบศร’ เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำล่องฝ่ามรสุม ช่วยผู้ประสบภัย ‘พายุปาบึก’

‘เรือหลวงจักรีนฤเบศร’ รับภารกิจใหญ่เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำล่องฝ่ามรสุม ช่วยผู้ประสบภัย ‘พายุปาบึก’

กองทัพเรือ พลิกโฉมเรือรบบรรทุกอากาศยาน “รล.จักรีนฤเบศร” ที่ทรงแสนยานุภาพ เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำ ล่องฝ่ามรสุม ช่วยชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติพายุปาบึก “บิ๊กลือ” ลั่น “สถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด ทหารเรือ ต้องไม่ทอดทิ้งประชาชน”

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2562 พลเรือเอกนพดล สุภากร ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ได้ตรวจความพร้อมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และกำลังบำรุง หมู่เรือเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณะภัยทางทะเล กองทัพเรือ ที่จะเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากภัยพิบัติจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ในพื้นที่ภาคใต้ ณ ดาดฟ้า เรือหลวงจักรีนฤเบศร ที่จอดเทียบท่า การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พลเรือตรี ชวิน เวียงวิเศษ ผู้บังคับหมู่เรือเฉพาะกิจฯ รายงานความพร้อมขั้นสูงสุด พร้อมรอรับคำสั่งจากกองทัพเรือ เคลื่อนตัวฝ่ามรสุม สู่ภารกิจช่วยชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือ ได้มอบหมายให้ เรือหลวงจักรีนฤเบศร หมายเลข 911 ซึ่งเป็นเรือบรรทุกอากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดแห่งราชนาวีไทย ได้รับภารกิจอันใหญ่หลวง ในการป้องป้องช่วยเหลือชีวิตประชาชน ให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการพลิกโฉมจากเรือรบที่ทรงแสนยานุภาพ เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำ ช่วยชีวิตผู้สบภัยจากฝั่งสู่ทะเล และเป็นเรือบัญชาการและฐานปฏิบัติการในทะเล นอกจากนี้ เรือยังได้บรรทุกเสบียง อาทิ อาหารสด น้ำดื่ม และอาหารแห้ง ไว้อย่างเพียงพอต่อผู้ประสบภัย และกำลังพลประจำเรือ

พลเรือเอก นพดล สุภากร ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ กล่าวว่า ตามที่ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องประสบกับภัยพิบัติพายุโซนร้อน “ปาบึก” จึงขอให้กำลังพลที่เข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ จงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ใช้สรรพกำลังที่มีช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกชีวิตให้ปลอดภัย ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด ขอให้เหล่าทหารเรือทุกนาย จงระลึกไว้เสมอว่า “ทหารเรือ ต้องไม่ทอดทิ้งประชาชน” ซึ่งการเดินทางในภารกิจครั้งนี้ ยังไม่กำหนดเดินทางกลับสู่ที่ตั้ง นั่นคือ จะต้องปฏิบัติภารกิจจนกว่าสภาวะจะเป็นปกติ ประชาชนทุกชีวิตได้รับความปลอดภัย

สำหรับ ภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ หมู่เรือเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล ขณะนี้มีความพร้อมขั้นสูงสุด จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ จากหน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ ปฏิบัติการกองทัพเรือ 4 ลำ ,ชุดแพทย์สนาม ,ชุดปฏิบัติการกู้ชีพและช่วยชีวิตทางน้ำ (Maritime Aquatic Life Support Team: MAL) ,ชุดสำรวจสำรวจและประเมินความเสียหาย ทร. (Naval Disaster Assessment Team:NDAT) , ชุดค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนบก และชุดปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งเรือจะใช้เวลาในการเดินทางถึงที่หมายประมาณ 15 ชม.