ขอความเป็นธรรม!! “ครูปรีชา” เข้าพบศึกษาธิการจังหวัด หลังถูกสอบวินัยร้ายแรง (คลิป)

ขอความเป็นธรรม!! “ครูปรีชา” เข้าพบศึกษาธิการจังหวัด หลังถูกสอบวินัยร้ายแรง อ้างผลการไต่สวนเบื้องต้นผิดพลาดเพราะใช้ข้อมูลเก่า (คลิป)

เมื่อเวลา 07.55 นาฬิกา วันที่ 21 มิถุนายน 2561 นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ได้เข้าพบนายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ณ ห้องทำงาน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยมี นายโชคชัย ฟักโต ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง ในฐานะคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมรับฟังด้วย หลังการพูดคุยชี้แจงกับศึกษาธิการจังหวัด ทางครูปรีชา ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก่อนจะเดินทางต่อไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีทันที ขณะที่ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวว่า ครูปรีชาได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมใน 2 ประเด็นหลักๆ คือ 1.ขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญในกระบวนการดำเนินการทางวินัย ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 ซึ่งเป็นต้นสังกัดนั้น ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมาย 2.ในทางคดีของ ครูปรีชา ซึ่งขณะนี้ข้อมูลได้มีการเปลี่ยนแปลง และมีความเคลื่อนไหวของคดีตลอดเวลา และขณะนี้ ครูปรีชายังไม่ได้ถูกดำเนินคดีทางอาญาแต่ประการใด จึงมาร้องทุกข์ต่อตน เพื่อนำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ดังนั้น ในขณะนี้ ตนจึงได้สั่งชะลอการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผิดวินัยร้ายแรงของครูปรีชาเอาไว้ก่อน โดยในระหว่างนี้ จะได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าเป็นไปตามที่ครูปรีชาร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาหรือไม่ ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมด เข้าร่วมในการประชุม คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2561 ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อที่จะหาข้อสรุปของกรณีนี้ต่อไป

(คลิป)

ขณะที่บริเวณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ครูปรีชา ได้เดินทางมาขึ้นศาลพร้อมด้วยนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความ  ในคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ ร้องต่อศาลว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธารนชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้มีพฤติกรรมเผยแพร่คลิปเสียงหลายครั้งหลายหน โดยบางครั้งได้กล่าวเชิญชวนประชาชนเปิดศาลเฟสบุ๊คด้วย ซึ่งอาจเป็นที่เสียหายต่อกระบวนพิจารณาของศาล และสร้างความสับสนให้กับสังคม โดยเมื่อเดินทางมาถึง ครูปรีชาได้กล่าวทักทายกับสื่อมวลชน ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนศาลทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน ขณะที่ทางทนายสุชพงศ์ บุญเสริม ได้กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อเป็นการขอให้ศาลพิจารณา ว่าการกระทำของนายอัจฉริยะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากทางครูปรีชาได้ยืนยันว่า คลิปเสียงที่นายอัจฉริยะนำมาเผยแพร่นั้น คล้ายกับคลิปเสียงที่เป็นหลักฐานและอยู่ในสำนวนการพิจารณาของศาล ซึ่งคงต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายละเมิดศาลหรือไม่

ขณะที่นายอัจฉริยะเอง ได้กล่าวก่อนจะขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีว่า การเดินทางมาในวันนี้ ตนก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ เพียงแต่ตนได้รับหมายศาลจังหวัดกาญจนบุรีให้เดินทางมาในวันนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องที่มีการระบุว่า ตนละเมิดอำนาจศาลนั้น ตนไม่ได้หนักใจอะไร เพราะตนเชื่อว่าตนไม่ได้ละเมิดอำนาจศาลและไม่ได้เป็นคู่ความในคดีด้วย ในส่วนของคลิปที่ตนนำมาเผยแพร่ก็เป็นคลิปที่ตนได้มาจากพลเมืองดีและแหล่งข่าวที่ตนรู้จักจึงไม่น่าจะเป็นการละเมิดศาลแน่นอน ซึ่งในวันนี้ นอกจากครูปรีชาพร้อมทนายความและนายอัจฉริยะ ที่เดินทางมาที่ศาลแล้ว นางกนกพรรณ หมวกไสว หรือฟ้า อดีตคนสนิทของครูปรีชาก็ได้ร่วมเดินทางมาฟังการพิจารณาคดีด้วย

กระทั่ง เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงสามสิบนาที นายอัจฉริยะ ได้เดินลงมาจากศาล พร้อมเปิดเผยว่า ศาลได้ยกคำร้องที่ครูปรีชากล่าวหาตนว่าละเมิดศาล เนื่องจากตนไม่ได้เป็นคู่ความในคดี แต่ศาลได้มีคำสั่ง ไม่ให้มีการนำเอาพยานหลักฐานที่อยู่ในสำนวนหรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลออกมาเผยแพร่อีก เนื่องจากเกรงส่าอาจจะเป็นการก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคมและยังเป็นการชี้นำศาลด้วย โดยนายอัจฉริยะกล่าวว่า ต่อจากนี้ก็คงจะต้องระมัดระวังในเรื่องการนำเสนอข้อมูลมากขึ้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของศาล ขณะที่ทางครูปรีชาเองก็ไม่ได้มีการยอมรับในศาลว่าคลิปเสียงที่ตนเผยแพร่เป็นของครูหรือไม่

ขณะที่ครุปรีชา ใคร่ครวญ หลังลงมาจากศาล ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะเรื่องของการที่มีคำสั่งย้ายตนมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 โดยครูปรีชาบอกว่าขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะชี้แจงใดๆ ขอเวลาให้ตนได้ทำงานก่อน แต่ก็ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจติดตามทำข่าวคดีนี้อย่างเกาะติดตลอดเวลา ส่วนในเรื่องของการพิจารณาเรื่องการละเมิดศาลในวันนี้ ตนก็พอใจกับสิ่งที่ศาลมีคำสั่งลงมาและก็คงจะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป