ทับสะแก!! เร่งเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คดำเป็นสีขาว ที่หาดทุ่งประดู่
ทับสะแก!! เร่งเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คดำเป็นสีขาว ที่หาดทุ่งประดู่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เร่งเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คสีดำ ที่พบว่ามีคาร์บอนผง ริมหาดบ้านทุ่งประดู่ เป็นถุงบิ้กแบ็คสีขาวสำหรับใส่ทรายโดยเฉพาะ 1,000 ใบ ขนาดความจุ 1 ตัน โดยนายอำเภอทับสะแก จะเร่งให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้
(วันที่ 16 ตุลาคม 2562) ความคืบหน้า กรณีถุงบิ๊กแบ็คคาร์บอนสีดำ ซึ่งมีบริษัทแห่งหนึ่งนำมาบรรจุทรายวางเป็นแนวเขื่อนกันคลื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายหาดทุ่งประดู่ หมู่ 2 อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุม แต่พบว่าถุงดังกล่าวผ่านการใช้งานมาแล้วและเป็นถุงคาร์บอน ซึ่งชาวบ้านพบว่าภายในถุงมีผงสีดำซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และเรียกร้องให้หน่วยงานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เกี่ยวข้องเร่งหาถุงใหม่มาเปลี่ยน อีกทั้งชาวบ้านที่เดือดร้อนติดป้ายประกาศขายบ้านและที่ดินบริเวณดังกล่าวในราคา 12 ล้านบาทเนื่องจากบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายหนัก
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าที่บริเวณชายหาดทุ่งประดู่ ซึ่งนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ กรมชลประทาน ได้นำรถแบ็คโฮ 3 คัน และของภาคเอกชนมาดำเนินการเริ่มรื้อถุงบิ้กแบ็คสีดำออกทั้งหมด และนำถุงบิ๊กแบ็คสีขาว 1,000 ลูก สำหรับใส่ทรายโดยเฉพาะมาบรรจุทรายและเริ่มมีการเปลี่ยนบริเวณหน้าบ้านที่มีการประกาศขาย
นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก กล่าวว่า การดำเนินการเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็ค จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ โดยถุงบิ้กแบ็คสีขาวทางบริษัทภาคเอกชนรายเดิม ซึ่งเป็นเจ้าของถุงบิ๊กแบ็คสีดำเป็นผู้นำมาให้ โดยถุงบิ้กแบ็คสีดำที่รื้อเอาทรายออกแล้วทางบริษัทภาคเอกชนจะเป็นผู้ขนกลับนำไปทำลายตามระบบต่อไป
สำหรับถุงสีขาวที่นำมาเปลี่ยนใหม่นี้ มีขนาดบรรจุ 1 ตัน สามารถบรรจุทรายได้มากกกว่าถุงบิ๊คแบ็คสีดำที่มีขนาดบรรจุเพียง 500 กิโลกรัม ที่สำคัญ มีความแข็งแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน โดยวันนี้ได้มีการใช้รถแบ็คโฮทำการรื้อถุงบิ๊กแบ็คสีดำออก และนำถุงบิ๊กแบ็คสีขาวมาวางเติมในแนวกันคลื่นเดิมไปพร้อมกัน ซึ่งแนวกันคลื่นจะแข็งแรงมากขึ้นเนื่องจากขนาดถุงใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว สำหรับวันแรกของการเปลี่ยนถุงสามารถเปลี่ยนถุงเก่าและวางถุงใหม่ได้ประมาณ 30 ถุงเท่านั้น เนื่องจากมีคลื่นลมแรง โดยในวันพรุ่งนี้ จะมีการเพิ่มจำนวนรถแบ็คโฮ เพื่อเร่งเปลี่ยนถุงบิ๊กแบ็คให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ในส่วนของการดำเนินการหาผู้รับเหมารายใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการก่อสร้างแนวเขื่อนทิ้งหินที่เหลืออยู่ประมาณ 800 กว่าเมตรนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ที่จะต้องเร่งดำเนินการต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านทุ่งประดู ที่ทราบข่าวว่าเริ่มมีการนำถุงบิ้กแบ็คมาเปลี่ยน ก็รู้สึกดีที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาแก้ไขให้ความสนใจปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว คอนนี้คลื่นลมในทะเลเริ่มแรงขึ้น อาจเป็นเพราะกำลังเข้าสู่ฤดูมรสุม ดังนั้นการแก้ไขส่วนที่เหลือคือการสร้างแนวเขื่อน ก็อยากให้ทางกรมเจ้าท่าหาผู้รับผิดชอบเร่งเข้ามาดำเนินการ และขอให้ทำได้มาตรฐาน ปัจจุบันนี้ยอมรับว่าชายหาดทุ่งประดู่ ถูกคลื่นกัดเซาะในช่วงมรสุสุมและช่วงที่มีพายุพัดเข้ามา ทำให้ชายหาดหายไปมากแล้ว
อย่าลืม!!!
ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper
?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/prachuappost/
https://www.facebook.com/prachuppost/
***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/groups/387550115078888/
…………………………………………………………………………
ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน
Website: http://www.prachuppostnews.com/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…
Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews
IG : www.instagram.com/ prachuppostnews